ราคาทองคำโลก (Spot Gold) เคลื่อนไหวในกรอบแคบแต่ถูกแรงกดดันจากสองปัจจัยหลัก — จีนประกาศยุติสิทธิภาษีทองคำ และ ถ้อยแถลงเชิงเข้มของประธานเฟด
รัฐบาลจีนได้ยุติการให้สิทธิประโยชน์ทางภาษีทองคำที่มีมานาน โดยจะไม่อนุญาตให้ผู้ค้าปลีกหักภาษีมูลค่าเพิ่ม (VAT) จากการขายทองคำที่ซื้อจากตลาดทองคำเซี่ยงไฮ้อีกต่อไป มาตรการนี้มีผลตั้งแต่วันเสาร์ที่ผ่านมา คาดกระทบต่อกำลังซื้อของผู้บริโภคในจีน ซึ่งเป็นตลาดทองคำรายใหญ่ของโลก
นอกจากนี้ ตลาดยังได้รับแรงกดดันจากถ้อยแถลงของ นายเจอโรม พาวเวล ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ที่แสดงจุดยืน “คุมเข้มนโยบายการเงิน” และลดความคาดหวังว่าการประชุมเดือนธันวาคมจะมีการปรับลดดอกเบี้ยอีกครั้ง จากเดิมที่คาดกัน 90% เหลือเพียง 63% ตามข้อมูลจาก CME Group
คืนนี้ตลาดรอติดตามตัวเลข ดัชนี PMI ภาคการผลิตสหรัฐเดือนตุลาคม ที่คาดอยู่ที่ 49.2 ใกล้เคียงเดือนก่อนหน้า ขณะเดียวกันสัปดาห์นี้ยังมีข้อมูลเศรษฐกิจสำคัญอีกหลายตัว เช่น
- ตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตร (Nonfarm Payrolls)
- ดัชนี PMI ภาคบริการ
- ดุลการค้า และยอดเปิดรับสมัครงาน JOLTs
รวมถึงการประชุม ธนาคารกลางอังกฤษ (BOE) และถ้อยแถลงจากกรรมการเฟด
ด้านในประเทศ ราคาทองคำเช้าวันจันทร์ลดลง 50 บาท อยู่ที่ 61,350 บาท หลังสัปดาห์ก่อนราคาปรับลดรวมกว่า 2,300 บาท โดยมีค่าเงินบาทแข็งค่าอยู่ราว 32.44 บาท ซึ่งยังเป็นแรงกดดันต่อราคาทองคำในประเทศ
