ช่วงสัปดาห์นี้ ราคาทองคำในตลาดโลกปรับตัวขึ้นและอยู่ใกล้กับสถิติสูงสุดตลอดกาล (All‑Time High) หลังมีข่าวตลาดแรงงานสหรัฐฯ ที่อ่อนตัวกว่าคาด ส่งผลให้ตลาดเพิ่มความคาดหวังว่า Federal Reserve (เฟด) อาจเร่งลดอัตราดอกเบี้ย

เหตุการณ์ที่สำคัญ
- ข้อมูลผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานครั้งแรก (Initial Jobless Claims) ของสหรัฐฯ ปรับเพิ่มขึ้นมากกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ ซึ่งเป็นสัญญาณหนึ่งว่าตลาดแรงงานเริ่มมีความอ่อนแอ
- ตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตร (Non‑Farm Payrolls) เดือนสิงหาคม เพิ่มขึ้นเพียงเล็กน้อยถึงประมาณ 22,000 ตำแหน่ง ซึ่งต่ำกว่าที่ตลาดประเมินไว้มาก (ตลาดคาดการณ์ไว้ที่ ~75,000)
- การว่างงานโดยรวมเพิ่มขึ้นเล็กน้อยถึง 4.3% ซึ่งเป็นระดับที่สูงกว่าที่เคยเป็นมาในช่วงก่อนหน้าในปีนี้ โดยรวมแสดงถึงแรงกดดันต่อการจ้างงาน
ผลกระทบต่อราคาทองคำ
- ราคาทองสปอต (Spot Gold) พุ่งขึ้นแตะ สถิติใหม่ รอบหนึ่ง และยังคงเคลื่อนที่อยู่ใกล้จุดสูงสุดเหล่านั้น โดยเช่น มีการแตะระดับประมาณ $3,636 ต่อออนซ์
- อุปสงค์จากนักลงทุนเพิ่มขึ้นในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัย (safe‑haven) โดยเฉพาะเมื่อมีข่าวเศรษฐกิจที่อ่อนแอลดลง ความเสี่ยงทางเศรษฐกิจและการเมืองโลกช่วยหนุนแรงซื้อทองคำ
- ตลาดเริ่มตั้งราคาไว้ว่า Fed มีโอกาสสูงที่ จะลดดอกเบี้ยในการประชุมเดือนกันยายน ประมาณ 25 basis points โดยเครื่องมือ CME FedWatch ประเมินความน่าจะเป็นสูง ซึ่งช่วยลดต้นทุนการถือทองคำ (ทองซึ่งไม่จ่ายดอกเบี้ย) และเพิ่มความน่าสนใจของทองคำในสภาวะอัตราดอกเบี้ยแท้ (real yield) ที่อาจติดลบหรืออยู่ต่ำ
สิ่งที่ตลาดกำลังจับตา
- ตัวเลข CPI (ดัชนีราคาผู้บริโภค) และ PPI (ดัชนีราคาผู้ผลิต) สหรัฐฯ ว่าจะออกมาอย่างไร — หาก inflation สูงเกินคาด อาจกดดันให้ Fed ต้องรัดกุมนโยบายการเงินให้เข้มงวดขึ้น ซึ่งเป็นเนื้อหาตรงข้ามกับแรงหนุนทองคำ
- รายงานแรงงานนอกภาคเกษตร (Non‑farm Payrolls) ที่จะประกาศในวันศุกร์นี้ — ถ้าแย่กว่านี้อีก จะเป็นตัวเร่งให้ตลาดคาดหวังการลดดอกเบี้ยมากขึ้น ซึ่งอาจผลักให้ทองคำขึ้นอีกทีอย่างรุนแรง
- ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐฯ และอัตราผลตอบแทนของพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐ โดยเฉพาะ 10 ปี — ถ้าดอลลาร์อ่อนและอัตรายีลด์ลดลง จะมีแรงหนุนทองเพิ่มขึ้นอีกหน
โดยสรุปแล้ว ราคาทองคำแม้จะมีการปรับย่อลงเล็กน้อยในบางช่วง แต่ภาพรวมยังแข็งแกร่งและอยู่ใกล้แนวสูงสุด เพราะตลาดแรงงานที่อ่อนแอสร้างความหวังเรื่องดอกเบี้ยที่ต่ำลง มุมมองทองคำในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัยจึงยังได้รับความนิยมสูง