ภาพรวมสถานการณ์ล่าสุด
- ราคาทองคำ Spot และ Futures เคลื่อนไหวแคบและแกว่งตัวในกรอบ โดย Spot +0.2% มาอยู่ที่ ประมาณ $3,342.6–3,343 / ออนซ์ และ Futures ก็ขยับตามเล็กน้อย
- ปัจจัยหลักที่กดดันทองคือ ความคืบหน้าของข้อตกลงการค้าระหว่างสหรัฐฯ กับ EU และญี่ปุ่น รวมถึง แนวโน้มดอลลาร์ที่อ่อนค่าลงเพียงเล็กน้อย ทำให้แรงซื้อในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัยลดลง

ปัจจัยสำคัญที่ทำให้ทองเคลื่อนไหวในกรอบ
- แรงเทขายทำกำไรในระยะสั้น ท่ามกลางความเชื่อมั่นในตลาดการค้าระหว่างประเทศที่เพิ่มขึ้น ทำให้นักเก็งกำไรบางส่วนปิดสถานะหนีความเสี่ยง
- ความอ่อนตัวของดอลลาร์สหรัฐ (USD) ช่วยหนุนทองไม่ให้ปรับตัวลงลึกเกินไป ทำให้ราคายังเคลื่อนในกรอบเหนือแนวรับหลัก ($3,325–$3,330)
- แนวโน้มการประชุม Fed ปัจจุบัน ตลาดคาดว่า Fed จะ คงอัตราดอกเบี้ยไว้ในช่วง 4.25–4.50% และรอฟังสัญญาณเพิ่มเติมจาก Jerome Powell และตัวเลขทางเศรษฐกิจ (GDP, PCE, NFP) ว่าจะมีทิศทางอย่างไรต่อไป
แนวรับ – แนวต้าน และแนวโน้มราคาทอง
ราคาทอง (USD/oz) | รายละเอียด |
---|---|
แนวรับสำคัญ | $3,325–$3,330 / oz — หากหลุดอาจร่วงลึกถึงรอบ $3,166–$3,018 zone |
แนวต้านเด่น | $3,400–$3,440 / oz — หากสถานการณ์การค้าเลวร้ายขึ้น หรือ Fed ส่งสัญญาณ dovish |
- สัปดาห์ที่ผ่านมา ราคาทองหดตัวเล็กน้อย (-0.2%–0.3%) แต่ยังบวกสุทธิสัปดาห์ประมาณ +0.4% จากแรงหนุนดอลลาร์อ่อนและคาดหวัง Fed cut ในอนาคต
แนวทางการลงทุนแนะนำ
- หากสถานการณ์ ข่าวดีจากการค้า + Fed ส่งสัญญาณคงดอกเบี้ย — ควรใช้กลยุทธ์ “sell on rise” โดยรอดูทองขึ้นแตะแนวต้านก่อนลดพอร์ตระยะสั้น
- หากมีสัญญาณของ คืนความตึงเครียดในการค้าหรือ Fed เปลี่ยนใจส่งสัญญาณ dovish — เป็นโอกาสพิจารณาเข้าสะสมทองหรือ Long ผ่าน ETF/Futures ระยะกลาง
สรุปสุดท้าย
ราคาทองคำอยู่ในช่วง consolidation range โดยมีแนวโน้มแกว่งระหว่าง $3,325–3,440 / ออนซ์ จนกว่าจะมีความชัดเจนจาก ผลประชุม Fed และความคืบหน้าในการเจรจาการค้า ทั้งสองปัจจัยจะเป็นตัวกำหนดทิศทางทองคำในระยะถัดไปอย่างชัดเจน