มีนาคม 2568 – บริษัท วายแอลจี บูลเลี่ยน แอนด์ ฟิวเจอร์ส (YLG) เปิดเผยว่า ราคาทองคำยังคงมีโอกาสขยับขึ้นอย่างต่อเนื่องในระยะกลางถึงยาว โดยมีโอกาสแตะระดับ 3,500 ดอลลาร์สหรัฐต่อออนซ์ หากการเจรจาทางการค้าระหว่าง สหรัฐฯ และจีน ไม่ประสบความสำเร็จ

ปัจจัยหนุนราคาทองคำ
- ความไม่แน่นอนจากสงครามการค้า “จีน–สหรัฐ”
- หากการเจรจาล้มเหลว อาจนำไปสู่การขึ้นภาษีตอบโต้กันอีกครั้ง
- ความเสี่ยงต่อเศรษฐกิจโลกจะเพิ่มขึ้น และส่งผลให้เกิดแรงซื้อทองคำในฐานะ “สินทรัพย์ปลอดภัย”
- แนวโน้มการลดดอกเบี้ยของ FED
- หากสหรัฐฯ เผชิญภาวะเศรษฐกิจชะลอตัว ธนาคารกลางสหรัฐฯ อาจลดดอกเบี้ยหรือใช้นโยบายการเงินแบบผ่อนคลาย
- ดอลลาร์สหรัฐจะอ่อนค่า ทำให้ทองคำที่เป็นสกุลเงินสากลน่าดึงดูดยิ่งขึ้น
- ธนาคารกลางทั่วโลกยังซื้อทองต่อเนื่อง
- โดยเฉพาะประเทศเศรษฐกิจเกิดใหม่ที่ต้องการกระจายความเสี่ยงจากเงินสกุลหลัก
YLG แนะกลยุทธ์การลงทุน
- หาจังหวะเข้าซื้อเมื่อราคาทองคำปรับฐาน
- ราคาที่ปรับลงชั่วคราวจากแรงขายทำกำไรถือเป็น “จุดเข้าลงทุน” ที่ดี
- พิจารณาลงทุนผ่านตลาดฟิวเจอร์ส (Gold Futures)
- เหมาะกับผู้ต้องการผลตอบแทนจากการเก็งกำไรระยะสั้น
- สามารถทำกำไรได้ทั้งฝั่งขึ้นและลง (Long & Short)
แนวโน้มระยะยาว
YLG ยังคงมองว่า ราคาทองคำในปี 2568 มีโอกาสเคลื่อนไหวในกรอบ 3,200 – 3,500 ดอลลาร์/ออนซ์ หากปัจจัยเสี่ยงระหว่างประเทศยังไม่คลี่คลาย และภาวะการเงินโลกยังคงผ่อนคลาย