1. โอกาสลดดอกเบี้ยของ Fed หนุนทองคำ
ราคาทองฟื้นตัวจากแนวต่ำ หลังจากที่นักลงทุนเริ่มเชื่อว่า Fed อาจลดอัตราดอกเบี้ยในเดือนกันยายน โดยตลาดคาดว่ามีโอกาสสูงถึง 87% สำหรับการลด 0.25% เนื่องจากความไม่แน่นอนทางการเมืองภายใน Fed เช่น ประเด็นการปลดผู้ว่าการ Fed ยังช่วยหนุนราคาทองให้อยู่เหนือแนว $3,330 และอาจพุ่งขึ้นไปทดสอบ $3,400–$3,435 หากมีท่าที dovish มากขึ้น
2. ดอลลาร์แข็ง – กดดันทองคำให้ผันผวน
แม้มีแรงหนุนจากความหวังลดดอกเบี้ย ทองคำกลับถูกกดดันเมื่อดอลลาร์ปรับแข็งค่า และตลาดเริ่มปรับลดความคาดหวังการปรับลดดอกเบี้ยของ Fed ลงมาเหลือประมาณ 71% การผันผวนเช่นนี้ทำให้ราคาทองผันผวนในกรอบ $3,320–$3,340 โดยล่าสุดราคาลดลงราว 0.4% อยู่ที่ประมาณ $3,326
3. ความไม่แน่นอนทางภูมิรัฐศาสตร์ “รัสเซีย–ยูเครน” ยังหนุนทองได้บ้าง
ถึงแม้ว่าจะมีความหวังว่าเจรจาสันติภาพอาจผลักดันเศรษฐกิจโลกให้ฟื้นตัว แต่สถานการณ์ยังไม่มีความชัดเจน ส่งผลให้ทองคำในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัยยังคงได้รับแรงหนุนจากความผันผวนทางภูมิรัฐศาสตร์ โดยเฉพาะความไม่แน่นอนในความสัมพันธ์รัสเซีย–ยูเครน การเจรจาซึ่งยังไม่มีข้อสรุป สร้างแรงหนุนให้ครึ่งหนึ่งของแรงซื้อยังคงอยู่ในทองคำ
ภาพรวมตลาดทองคำ
ปัจจัย | ผลต่อทองคำ |
---|---|
Fed อาจลดดอกเบี้ย | หนุนราคาทองในเชิงเทคนิคและทางจิตวิทยา |
ดอลลาร์แข็ง & ลดความคาดหวัง | กดดันทองให้ผันผวนลง |
สถานการณ์รัสเซีย–ยูเครนยืดเยื้อ | สนับสนุนทองในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัย |
ข้อแนะนำสำหรับนักลงทุน
- หาก Fed เคลื่อนไหวไปในแนวทาง ผ่อนคลาย (dovish) และลดดอกเบี้ยจริง ทองอาจมีแนวโน้มปรับขึ้นไปทดสอบระดับ $3,400–$3,435 ซึ่งอาจเป็นจุดซื้อในระยะกลาง
- หากดอลลาร์แข็งค่าขึ้น หรือข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐเข้มแข็ง (เช่น เงินเฟ้อหรือการจ้างงาน) ราคาอาจปรับตัวลงก่อนเป็นระยะ โดยควรติดตามทิศทางตลาดอย่างใกล้ชิด
- ความผันผวนจากสงครามยังเป็นปัจจัยหนุนสำคัญ ควรเตรียมรับความไม่แน่นอนเอาไว้ในกลยุทธ์ลงทุน