
ในช่วงที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ดำรงตำแหน่ง ผู้นำสหรัฐอเมริกา นโยบายภาษีและการค้าของเขาได้สร้างความไม่แน่นอนและความผันผวนในเศรษฐกิจโลก สิ่งนี้ส่งผลให้ทองคำได้รับความสนใจจากนักลงทุนมากขึ้น เนื่องจากทองคำถือเป็นสินทรัพย์ปลอดภัย (Safe Haven) ที่สามารถปกป้องมูลค่าทรัพย์สินในช่วงวิกฤต
จากข้อมูลของสภาทองคำโลก (WGC) ความต้องการทองคำทั่วโลกในปี 2567 ได้ทำระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 4,974 ตัน โดยได้รับแรงขับเคลื่อนจากการซื้อทองคำอย่างต่อเนื่องจากธนาคารกลางและความต้องการทองคำเพื่อการลงทุนที่เติบโตขึ้น ร่วมกับราคาทองคำที่ทำสถิติสูงสุดหลายครั้งในปีที่ผ่านมา ส่งผลให้ความต้องการทองคำรวมสูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 3.82 แสนล้านดอลลาร์
นอกจากนี้ นายแพทย์ กฤชรัตน์ หิรัณยศิริ ประธานกรรมการกลุ่มบริษัท เอ็มทีเอส โกลด์ แม่ทองสุก ได้มองว่าราคาทองคำจะพุ่งสูงขึ้นต่อเนื่องจากนโยบายการกีดกันทางการค้าของทรัมป์ ทำให้โลกแปรปรวน และคาดว่าราคาทองคำอาจทะลุ 50,000 บาทต่อบาททองคำในอนาคต
สำหรับนักลงทุนที่สนใจการลงทุนในทองคำ กองทุนทองคำถือเป็นทางเลือกที่น่าสนใจ เนื่องจากมีผลตอบแทนเฉลี่ยต่อปีอยู่ที่ 8-9% อย่างไรก็ตาม การลงทุนในทองคำควรเน้นการลงทุนระยะยาว เพื่อให้ได้ผลตอบแทนที่ดี
อย่างไรก็ตาม การลงทุนในทองคำยังมีความเสี่ยงจากความผันผวนของราคาทองคำและปัจจัยภายนอกอื่น ๆ ดังนั้น นักลงทุนควรพิจารณาและวางแผนการลงทุนอย่างรอบคอบ