ราคาทองผงาดหลังแตะ All-Time High ใกล้ $3,600/oz
- ราคาทองคำ Spot พุ่งขึ้นแตะ สูงสุดล่าสุดที่ $3,508.50 ต่อออนซ์ ก่อนปิดที่ $3,496 โดยเป็นระดับสูงสุดตั้งแต่จัดเก็บสถิติได้ เพิ่มขึ้นกว่า 33% นับแต่ต้นปี 2025
- ฟิวเจอร์สนำส่งเดือนธันวาคมปรับขึ้นไปที่ $3,565.50/oz สะท้อนแรงซื้อที่ต่อเนื่อง
- หากความแข็งแกร่งยังคงอยู่ ราคาทองมีโอกาสขึ้นไปถึง $3,600 ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับแนวโน้ม Fed และปัจจัยความไม่แน่นอนทางเศรษฐกิจ–การเมือง

ปัจจัยหนุนตลาดทองคำในตอนนี้
- คาดการณ์ลดดอกเบี้ย Fed: ความเป็นไปได้สูงถึง 90% ที่ Fed จะปรับลดอัตราดอกเบี้ย 25 bps ในเดือนกันยายน ซึ่งช่วยหนุนราคาทองให้ดูมีภูมิคุ้มกันต่อสภาวะดอกเบี้ยต่ำ
- ดอลลาร์อ่อนค่าลง + ความไม่มั่นใจใน Fed: เหตุผลจากการแทรกแซงของประธานาธิบดี Trump ต่อ Fed และโจมตีประธาน Jerome Powell ทำให้แรงเทขายดอลลาร์และความเชื่อมั่นในสินทรัพย์ดอลลาร์ลดลง ส่งผลบวกต่อทองคำ
- ความต้องการจากธนาคารกลางและนักลงทุน: ยังคงสูงโดยเฉพาะจากจีน อินเดีย ตุรกี และโปแลนด์ ส่วนหนึ่งเป็นผลจากแนวโน้ม “de‑dollarisation” ทำให้ทองครองสัดส่วนสำรองโลกเพิ่มขึ้น จนแซงสกุลยูโรในตำแหน่งสินทรัพย์สำรองอันดับสอง และถือ 20% ของสินทรัพย์สำรองโดยรวม
แนวโน้มถัดไป: มีโอกาสทะลุแต่ต้องจับตา Fed
- หาก Fed ส่งสัญญาณ ผ่อนคลาย (dovish) อย่างชัดเจน หรืออาจมีการลดดอกเบี้ยในเดือนหน้า ราคาทองอาจ “ทะลุ” ไปถึง $3,600–$3,700 ได้ไม่ยาก
- ตัวแปรสำคัญที่ต้องจับตาหลังจากนี้คือ รายงาน Non-Farm Payrolls (NFP) และท่าทีของ Fed ในสัปดาห์หน้า
- สถานการณ์ความไม่มั่นคงทางการเมือง-เศรษฐกิจอย่างสงคราม ยูเครน หรือปัญหาภายในสหรัฐฯ ก็อาจเพิ่มแรงหนุนต่อราคาได้อีก